นวัตกรรมใหม่ของ Plate Heat Exchanger

 

         นับตั้งแต่ Plate Heat Exchanger (PHE)  ตัวแรกได้ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1931 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการ Pasteurize นมและหลักจากนั้น PHE ได้ถูกพัฒนาและนำมาใช้ในอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ กันอย่างแพร่หลาย  จนกระทั้งปี 1977  ได้เกิดนวัตกรรม ของการผลิต Heat  Exchanger  ชนิดขนาดกะทัดรัด (Compact)  ที่เรียกว่า Copper Brazed Heat Exchanger (BPHE) ซึ่งผลิตโดยเทคโนโลยีการบัดกรีแข็ง  (Brazing) โดยใช้ทองแดงบริสุทธิ์เป็นตัวประสานระหว่างแผ่นถ่ายเทความร้อนที่ทำจากวัสดุStainless  ซึ่งภายหลังจากปี 1992 ได้ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบเครื่องเย็นที่ใช้น้ำยา Freon เป็นสารทำความเย็นสืบเนื่องมาจากขนาดที่กะทัดรัดและคุณสมบัติที่ดีหลาย ประการ  แต่อย่างไรก็ตามทองแดงนั้นมีข้อจำกัดหลายประการ  กล่าวคือ
          1. ไม่สามารถใช้กับระบบที่ใช้แอมโมเนียเป็นสารทำความเย็นได้
          2. ทองแดงมีโอกาสปนเปื้อน (Contaminate) ได้ง่าย อีกทั้งยังไม่เหมาะกับการทำความสะอาดประเภท
              CIP (Cleaning in Place)
 
          3. ประเภทที่ใช้ทองแดงประสานมีความแข็งแรงต่ำ แม้ว่าจะแข็งแรงกว่า BPHE ประเภทที่ใช้วัสดุ Nickel
              (Nickel Brazed Heat Exchanger – NBHE)
 เป็นตัวประสานอยู่มากแล้วก็ตาม
 
          ดังนั้น เทคโนโลยีการผลิต  BPHE ที่ใช้วัสดุตัวประสานเป็นชนิดเดียวกับวัสดุแผ่นถ่ายเทความร้อน เช่น  Stainless  กับ Stainless ในการ Brazing  จึงถูกพัฒนาขึ้นโดยมีชื่อว่า AlfaFusion ซึ่งสามารถทำให้วัสดุที่นำมาใช้เป็นแผ่นถ่ายเทความร้อนและตัวประสาน เป็นวัสดุ Stainless Steel ชนิดเดียวกันได้
 
          ในระบบเครื่องเย็นที่ใช้แอมโมเนียเป็นสารทำความเย็น และด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้   ทำให้เราสามารถผลิต   Brazed Heat Exchanger ชนิดที่ทำจาก Stainless Steel 100% ได้ในราคาถูก และสามารถนำมาใช้งานต่างๆ อย่างแพร่หลาย  อาทิ
         - Compressor Oil Cooling
           - Economizer
           - Evaporator
           - Condenser
           - Desuperheater (Heat Recovery)
           - Cascade
 
           นอกจากนั้นแล้วเนื่องจากเป็น Heat Exchanger  ประเภท 100% Stainless Steel   จึงสามารถทนต่ออุณหภูมิที่สูงและมีความต้านทานความล้า  (Pressure Fatigue)  ได้ดีกว่า  Heat Exchanger  ประเภทที่ต้องใช้ทองแดงเป็นตัวประสาน อีกทั้งยังสามารถใช้กับงานประเภทที่ต้องการความสะอาดสูง(เนื่องจากStainlessSteel)ไม่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนได้ง่ายเหมือน ทองแดง และยังเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะใช้กับการทำความสะอาดชนิด CIP  เช่น Clean Water Chiller และ Hygienic Applications และด้วยความสามารถในการต้านทานการกัดกร่อนของ Stainless Steel ทำให้ BHE ชนิด 100% Stainless Steel นี้เหมาะสมที่จะใช้กับ LiBr ในระบบ Absorption อีกด้วย
 
           ดังนั้น จึงเป็นไปได้อย่างยิ่งว่า เทคโนโลยีประเภทนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อการผลิต Heat Exchanger ชนิดต่างๆ ในระบบทำความเย็นเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก  :  คุณปรีชา  เจตสิริโรจน์  บริษัท อัลฟา-ลาวาล (ไทยแลนด์) จำกัด  วารสาร Keep Kool